ถ่ายทอดสด ทรู วิชั่นส์ 61
ผลการแข่งขันในรายการนี้ครั้งล่าสุด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – 0 ลิเวอร์พูล
สัปดาห์นี้ศึกพรีเมียร์ ลีค ได้ร้อนระอุเป็นแน่ เมื่อ “ศึกแดงเดือด” นัดที่ 2 ประจำฤดูกาลนี้เวียนมาถึง โดยครั้งนี้ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ที่สามารถครองตำแหน่งจ่าฝูงแต่เพียงผู้เดียวได้สำเร็จ จะได้รอเปิดบ้านต้อนรับ “ลิเวอร์พูล” ผู้มาเยือนจากแดนเมอร์ซี่ย์ กลางโรงละครแห่งความฝันของตัวเอง
จาก 170 นัด ที่ทั้งคู่ลงทำศึกกัน “ปีศาจแดง” เป็นฝ่ายโค่นคู่แข่งไปถึง 66 นัด โดยที่ “หงส์แดง” กำชัยชนะไปได้ 57 นัด โดยการพบกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด “ปีศาจแดง” ยัดเยียดความปราชัยให้ผู้มาเยือนไปถึง 39 นัด
มีเพียง 15 นัดเท่านั้น “หงส์แดง” บุกมาหยิบชัยชนะกลับไปได้
ในการพบกันนัดแรกของฤดูกาล “ยูไนเต็ด” ยกพลบุกไปเชือด “เดอะ ค็อป” หวุดหวิด 1 ประตูต่อ 0 คารัง “แอนฟิลด์” จากผลงานของ “เตเบซ” ที่ซัดโล่งๆ ในช่วงท้ายครึ่งแรก ก่อนที่จะยันสกอร์นั้นได้จนจบเกม
ทักทายเจ้าบ้าน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานในลีคได้ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อเก็บชัยชนะได้ 4 นัดติดต่อกัน จนสามารถผงาดขึ้นครองตำแหน่งจ่าฝูงแต่เพียงผู้เดียวได้สำเร็จ หลังจากเก็บ 3 แต้มเต็มเมื่อกลางสัปดาห์เหนือโบลตัน จนมีแต้มนำผู้ท้าชิงอย่างอาร์เซน่อลถึง 3 แต้ม
นัดนี้เจ้าบ้าน จะได้ “ฟาน เดอร์ ซาร์” กลับลงมาเฝ้าเสาอีกครั้ง หลังจากหายไปกลางศึกเอฟเอ คัพ แถมทั้ง “เนวิลล์” และ “ซิลแวสตร์” ที่เจ็บไปนานก็สามารถกลับมาลงเล่นในเกมสำรองได้แล้ว ซึ่ง “กัปตันแกรี่” อาจได้รับเลือกให้ลงประเดิมสนามในบิ๊กแมตท์เกมนี้ก็เป็นได้ แต่ยังต้องเช็คความฟิตของ “เฟอร์ดินานด์” ที่มีอาการเจ็บหลัง จนทำให้หายไปใน 2 เกมหลัง ซึ่งหากปราการหลังตัวเก่งไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ทั้ง “บราวน์” และ “ปิเก้” ก็พร้อมรับผิดชอบหน้าที่แทน
ต้อนรับทีมเยือน
ลิเวอร์พูล อยู่ในฟอร์มที่กำลังร้อนแรง เมื่อเก็บชัยชนะต่อเนื่องในการลงสนามทุกรายการใน 7 นัดหลังสุด ทำให้กลับมามีลุ้นพื้นที่ไปเตะฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่สุดอีกครั้ง และอาจเลยไปถึงการลุ้นแชมป์ลีค อย่างที่ผู้จัดการหนวดงามหมายมั่นปั้นมือเอาไว้
ทางด้านทีมเยือน ไม่มีปัญหาการบาดเจ็บเพิ่มเติมแต่อย่างใด มีเพียง “แอ็กเกอร์” ที่เจ็บยาวไปจนจบฤดูกาลเท่านั้นที่จะพลาดเกมนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้ “เบนิเตซ” สามารถเลือกโรเตชั่นนักเตะในสังกัดได้อย่างเต็มที่
ขึ้นชื่อว่า “ศึกแดงเดือด” นัดไหนนัดนั้นการันตีได้ว่าระดับความมันส์เต็มพิกัดแน่นอน เมื่อทั้งสองทีมต่างฝ่ายต่างงัดฟอร์มเก่งของตัวเองบุกใส่คู่แข่งอย่างไม่ยั้ง ไม่ว่าทั้งคู่จะอยู่ในสถานการณ์ใด แม้ 3 ฤดูกาลหลังมานี้ “ปีศาจแดง” จะเป็นฝ่ายไร้พ่ายในเกมลีคก็ตามที โดยนัดแรกที่ทั้งคู่พบกันในฤดูกาลนี้ ต่างฝ่ายต่างบุกแลกหมัดกันตลอด 90 นาที แต่เป็น “ปีศาจแดง” ที่ฉวยโอกาสขึ้นนำไปก่อน และต้านทานการบุกของ “หงส์แดง” ได้อย่างเสียวไส้แฟนบอล จนเก็บ 3 แต้มเต็มในถิ่น “แอนฟิลด์” ได้อีกครั้ง รวมเป็น 16 แต้ม จาก 6 ฤดูกาลหลัง
แถมนัดนี้ยังเป็นการดวลกันระหว่าง “ดาวซัลโวสูงสุด” อย่าง “โรนัลโด้” กับ “รองดาวซัลโว” อย่าง “ตอร์เรส” เพื่อพิสูจน์กันไปเลยว่าใครควรคู่กับตำแหน่ง “ดาวซัลโวสูงสุดประจำฤดูกาล 2007-2008”
เชื่อแน่ว่านัดนี้คงเป็นอีกนัดที่ทั้งคู่สร้างความเร้าใจให้แฟนบอลทั่วโลกตลอดทั้งเกม เมื่อทั้งคู่ต้องการประตู เพื่อคว้า 3 แต้มอันสำคัญไว้กับตัวให้จงได้ แค่ความผิดพลาดเล็กน้อยของตัวเอง อาจทำให้คู่แข่งเก็บ 3 แต้มเต็มได้เลยทีเดียว
chokechone11
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC